วิธีเล่นแบล็คแจ็ค น่าจะเป็นสิ่งที่นักเล่นหน้าใหม่ อาจจะกำลังค้นหา เพราะนับว่าเป็นหนึ่งในเกมยอดนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นคาสิโนทั่วไปหรือ คาสิโนออนไลน์ ทุกที่จะต้องมีเกม แบล็คแจ็ค อย่างแน่นอน
เพราะถือว่าเป็น เกมไพ่ สุดคลาสสิค ที่นิยยมในหมู่ผู้เล่นทั่วโลก ในบทความนี้ทีมงาน วามาเกม จะพาทุกท่านมาชม วิธีเล่นแบล็คแจ็ค และเทคนิคการเล่นที่น่าสนใจกันค่ะ
เพื่อนๆสามารถอ่านที่มาของการเล่นนี้ได้จากบทความ แบล็คแจ็คออนไลน์ ที่ทางทีมงานเคยนำมาเสนอให้อ่านกันได้แล้ว
แต่เราจะมาสรุปให้เข้าใจกันง่ายๆอีกครั้ง นั่นก็คือการเล่นเกมไพ่ชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องใช้จำนวนคนเยอะมี 2 คน ก็เล่นได้โดยที่ให้ใครสักคนในวงเป็นเจ้ามือ
ซึ่งถ้าหากเราเล่นกันตามปกติก็อาจจะเสี่ยงที่จะโดนจับหรือมีคนพบเห็น เกมนี้จึงถูกนำมาพัฒนาต่อยอดและเปิดให้เล่นกันในรูปแบบออนไลน์นั่นเอง
โดยเป็นเกมที่เน้นทักษะของผู้เล่นเป็นหลักมากกว่าดวง นั่นจึงทำให้ผู้เล่นที่เป็นสายเน้นใช้ดวง ไม่ค่อยชื่นชอบในการเล่นเกมนี้มากนัก
แน่นอนว่าการเล่น เกมคาสิโน นั้นในแต่ละประเภทก็จะมีสัพท์เฉพาะทางที่ผู้เล่นควรทราบก่อนทำการเล่นเช่นกันไม่เว้นแม้แต่ แบ๊คแจ็ค
ซึ่งหากเราเล่นคาสิโนสดยังสามารถใช้เป็นเทคนิคในการสังเกตคู่ต่อสู้ได้ด้วย หากมีศัพท์แปลกๆขึ้นมาและผู้เล่นบางคนไม่เข้าใจก็จะขาดความมั่นใจในการเล่นไปเลย เรามาดูว่ามีศัพท์อะไรบ้างค่ะ
BlackJack / แบล็คแจ็ค
สำหรับคำนี้ไม่ได้หมายถึงชื่อเกมเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงไพ่สองใบแรกที่รวมแต้มแล้วได้ 21 แต้มพอดีได้แก่ไพ่ A+10, A+K, A+Q และ A+J นั่นเอง
Hit / ฮิต
เป็นการจั่วไพ่เพิ่มเพื่อให้ได้ผลรวมใกล้เคียงกับ 21 แต้มมากที่สุด ผู้เล่นสามารถจั่วได้เรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ สพหรับเจ้ามือต้องจั่วเรื่อยๆหากแต้มไพ่สองใบแรกที่มีในมือนั้น น้อยกว่าหรือเท่ากับ 16 และจะจั่วเพิ่มไม่ได้ในกรณีที่แต้มรวมของไพ่สองใบแรกมากกว่าหรือเท่ากับ 17 แต้มใน เกมแบล็คแจ็ค
Stand / แสตนด์
หมายถึงการ "อยู่" ซึ่งเป็นศัพท์ที่ใช้เมื่อเราคิดว่าแต้มไพ่ที่เรามีนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่โอเคแล้ว ไม่ต้องการที่จะจั่วเพิ่มเพราะจะเสี่ยงแต้มเกิน 21 แต้มและแพ้ในเกมนั้น
Double Down / ดับเบิ้ล ดาวน์
เป็นรูปแบบการวางเดิมพัน 2 เท่าในไพ่สองใบแรก ซึ่งวิธีการเดิมพันก็คือ ผู้เล่นจะวางเดิมพันเป็น 1 เท่าจากเดิมพันในรอบก่อนหน้าแล้วลเรามาลุ้นกันว่าไพ่ใบที่สามนั้นจะออกกี่แต้ม ถ้ารวมแล้วได้แต้มที่มากกว่าเจ้ามือแต่ไม่เกิน 21 แต้มก็จะถือว่าชนะและอัตราจ่ายคือ 1:1 และหลังจากการเพิ่มเดิมพันก็จะสามารถจั่วไพ่ได้แค่ใบเดียว
Split / สปริท
เป็นการแยกไพ่ออกเป็น 2 ชุด เกิดขึ้นในกรณีที่ไพ่สองใบแรกออกคู่ AA หรือ 88 โดยปกติเจ้ามือ หรือระบบจะถามว่าต้องการแยกไพ่หรือไม่ ถ้าแยกผู้เล่นก็ต้องเพิ่มเงินเดิมพันแล้วเล่นไพ่ทั้ง 2 ชุดพร้อมกัน สำหรับ แบล็คแจ็คเกม
Insurance / อินชัวรันส์
เป็นการเลือกเดิมพันหรือวางประกันเดิมพัน กรณีที่ออก BlackJack เช่น ไพ่ใบแรกของเจ้ามือออกเป็น A ผู้เล่นก็จะมีโอกาสเลือกได้ว่าจะทำประกัน หรือไม่ด้วยการวางเดิมพัน 50% ของเดิมพันที่วางไว้ก่อนหน้านี้ เสร็จแล้วเจ้ามือจะเปิดไพ่ใบที่สองถ้าไพ่ที่ออกมาติดเป็น แบ๊กแจ๊ก ผู้เล่นก็จะชนะ และอัตราจ่ายคือ 2:1 แต่ถ้าไม่ติดเงินประกันที่ลงไปก็จะถือว่าเสียเปล่า
Surrender / เซอร์เรนเดอร์
เป็นการยอมแพ้เมื่อเปิดไพ่สองใบแรกเท่านั้น โดยเมื่อแจ้งยอมแพ้ผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันคืนครึ่งหนึ่งที่วางเดิมพันลงมา
เก็บไพ่
เกิดขึ้นกรณีที่ผู้เล่นเปิดได้ไพ่ แบล็คแจก แล้วไพ่เจ้ามือใบแรกออก A ผู้เล่นจะสามารถเลือกเก็บไพ่ก่อนได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่มีโอกาสจะเสมอกับเจ้ามือ
บอกเลยว่าสิ่งสำคัญในการเล่น Blackjack นั้นดวงดีเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งที่จะทำให้เราชนะเท่านั้น ส่วนสำคัญนั้นก็คือผู้เล่นจะต้องทำความเข้าใจ วิธีเล่นที่ถูกต้อง และกติกาพื้นฐานเสียก่อน
เพราะหากเราเข้าไปเล่นแบบไม่รู้ กฎแบล็คแจ็ค แบบงูๆปลาๆ ไม่มีเทคนิคไม่มีเชิงในการเล่น สุดท้ายจุดจบของเราก็จะเป็นหมูในอวยให้เค้าต้อน ให้เค้ากินโต๊ะแค่นั้นค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มศึกษาไปพร้อมๆกันได้เลย
สำหรับการนับไพ่ในเกม แบ็คแจค จะต่างจากเกมอื่นๆในคาสิโนทั่วไปที่จึดหลักหน่วยบนหน้าไพ่เป็นตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะ
แต่สำหรับเกมนี้ สิ่งสำคัญที่ผู้เล่นทุกคนต้องทำคือสะสมแต้มไพ่ทั้งหมดในมือให้ได้ 21 แต้มหรือใกล้เคียงที่สุดถึงจะชนะ
และสำหรับคนที่ได้แต้มน้อยกว่าหรือว่ารวมกันแล้วเกิน 21 แต้มก็จะเป็นผู้แพ้ในเกมนั้นทันทีเรามาดูกันดีกว่าว่าการนับแต้มนั้นมีวิธีอย่างไร
หน้าไพ่ ACE / A
เป็นไพ่เดียวที่มีสองค่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะได้ไปอยู่คู่กับไพ่ใบไหนในมือของผู้เล่น
- ไพ่ที่มีหน้าเป็น 10,J,Q และ K ทั้งสี่ใบนี้จะมีค่าเท่ากันคือ 10 แต้ม
- หาก A อยู่รวมกับไพ่ 10,J,Q และ K ก็จะทำให้มีค่าเป็น 11 แต้มและทำให้กลายเป็น แบล็กแจ็ค
- ไพ่ที่มีหน้าแต้มไพ่ 2 - 9 เป็นไพ่ที่มีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าไพ่
- หาก A อยู่รวมกับไพ่ 2 - 9 ไม่ว่าจะเป็นดอกไหนของไพ่ก็ตามจะนับเป็น 1 แต้มเท่านั้น
การแยกไพ่
เป็นกฎพื้นฐานของคาสิโนออนไลน์สำหรับเกม แบล๊คแจ็ก ซึ่งส่วนใหญ่จะบังคับให้แยกไพ่เมื่อไพ่ที่ผู้เล่นได้สองใบแรกติดเป็นคู่ได้แก่ AA และ 88 และวางเดิมพันแยก เพื่อเล่นเพิ่มเป็นสองขา กรณีที่มีเงินวางเดิมพันไม่พอ ระบบจะบังคับให้หมอบหรือยอมแพ้ในตาดังกล่าว
และเมื่อแยกไพ่เรียบร้อยแล้ว หากผู้เล่นยังจั่วไพ่แล้วได้เป็น AA ก็จะสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้อีกขาละ 1 ใบ แต่ถ้าได้เป็นไพ่คู่ 88 จะสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้ไม่จำกัดเท่าที่ผู้เล่นต้องการ เพื่อให้ได้แต้มที่คิดว่าใกลเเคียง 21 แต้มที่สุด
กรณีที่ได้คู่อื่นและผู้เล่นพอใจกับแต้มบนหน้าไพ่ที่ได้รับแล้ว ก็สามารถเลือก อยู่ ได้หรือเรียกไพ่เพิ่มได้เช่นกัน
เรามาดูเทคนิคพื้นฐานที่ควรทราบในการเล่นแบล็คแจ็คกันค่ะว่า มีข้อปฎิบัติและข้อควรระวังอะไรกันบ้าง
เดิมพันประกันไพ่
หากในรอบที่เราเล่นนั้น เจ้ามือออกหน้าไพ่ A เราควรรับ ลงเดิมพันประกันไพ่ ทุกครั้ง เพราะโดยสถิติส่วนมากแล้ว มีโอกาสสูงที่เจ้ามือจะติดไพ่เป็น แบ็คแจ๊ก
ดังนั้นเราจึงควรวางประกันไว้ ถึงจะเสี่ยงที่บางครั้งเจ้าไม่ออกไพ่ดังกล่าวและเราจะเสียเงินประกันไปก็ตาม แต่ถ้าเป็นไปตามเกมที่บอกเราก็จะได้รางวัลเช่นกัน
แยกไพ่ทันทีเมื่อมีโอกาส
กรณีที่เราได้ไพ่คู่สูงเช่น AA, KK, QQ, JJ, 1010 และ 88 หากคาสิโนนั้นๆเปิดให้เราสามารถแยกไพ่ได้ทุกคู่ ก็ให้คว้าโอกาสนั้นไว้ทันที เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ
แม้บางเว็บอาจจะมีเงื่อนไขในการจำกัดให้แยกคู่ไพ่ได้เพียงคู่ AA และ 88 เราก็ยังควรแยกเช่นเดียวกัน ที่สำคัญอย่าลืมดูจำนวนเงินทุนของเราเสมอด้วย ไม่เช่นนั้นจะโดนบังคับหมอบ กรณีที่เรามีเงินวางเดิมพันไม่พอนั่นเอง
จั่วไพ่ด้วยความระวังและมีสติ
ถึงแม้ว่าการจั่วไพ่เป็นสิทธิ์ตามปกติของผู้เล่น แต่เราควรมีสติและพิจารณาให้ถี่ถ้วยก่อนตัดสินใจจั่วไพ่ทุกครั้ง นั่นก็เพราะว่ามันจะเป็นส่วนสำคัญในการชี้ชะตา แพ้ชนะของเราในการเล่นรอบดังกล่าวเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่นหากเราได้หน้าไพ่แต้มรวมเป็น 11 แต้ม กรณีนี้ยังสามารถจั่วเพิ่มได้ แต่ถ้าเราได้ 12 หรือ 13 ให้เราเลือกอยู่ไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะว่าหากเราตัดสินใจจั่วเพิ่ม จะมีความเสี่ยงสูงที่ แต้มรวมจะทะลุเป็น 21 แต้มจากจะชนะกลายเป็นแพ้ขึ้นมาก็เป็นได้ ผู้เล่นต้องจำไว้เสมอว่าตราบใดที่เจ้ามือยังไม่ออกหน้าไพ่เป็น แบ็กแจ๊ก โอกาสในการชนะของผู้เล่นนั้นยังมีเสมอ
จากที่กล่าวมาด้านบนนอกจากการเอาชนะด้วย แบกแจ็ค ตามปกติแล้วคือได้ไพ่คู่ A+10, A+J, A+Q หรือ A+K หรือได้แต้มที่มากกว่าเจ้ามือแต่ไม่เกิน 21 แล้วนั้นยังมี รูปแบบการเอาชนะเกมนี้อีก 3 รูปแบบดังต่อไปนี้
แบบ 21+3
รูปแบบนี้จะเป็นการเล่นและเอาชนะด้วยไพ่ 3 ใบ โดยไพ่ที่อยู่ในมือของผู้เล่นจะต้องออกเป็นชุด ตองเหมือน, ตอง, Straight Flush, Straight และ Flush ซึ่งไพ่แต่ละชุดก็จะมีรูปแบบที่ต่างกันและ อัตราจ่ายที่เรียงกันจากมากไปน้อยดังนี้
ตองเหมือน - ไพ่สามใบมี "แต้มเดียวกัน" "ดอกเดียวกัน" อัตราจ่าย 100:1 ( จะเกิดขึ้นเฉพาะในเกมที่มีไพ่ 6 สำรับ)
Straight Flush - ไพ่สามใบที่มี "แต้มเรียงกัน" "ดอกเดียวกัน" อัตราจ่าย 40:1
ตอง - ไพ่สามใบมี "แต้มเดียวกัน" แต่ไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายอยู่ที่ 30:1
Straight - ไพ่แบล็คแจ็ค สามใบที่มี "แต้มเรียงกัน" แต่ไม่จำเป็นต้องมีดอกเดียวกัน อัตราจ่ายอยู่ที่ 10:1
Flush - ไพ่สามใบที่มี "ดอกเดียวกัน" แต่ไม่จำเป็นต้องมีแต้มเรียงกัน อัตราจ่ายอยู่ที่ 5:1
แบบ Perfect Pair
เป็นการเอาชนะด้วยรูปแบบคล้ายคลึงกับการติด blackjack โดยเงื่อนไขก็คือไพ่ที่ได้รับต้องเป็นคู่เท่านั้น โดยแต่ละคู่จะมีรูปแบบต่างกันออกไปคือ
คู่เหมือน - ไพ่คู่ที่มี "ดอกเดียวกัน" อัตราจ่าย 25:1
คู่สี - ไพ่คู่ที่มี "ดอกสีเดียวกัน" จะเป็นคนละดอกหรือดอกเดียวกันก็ได้ เช่น ดอกจิก คู่ โพธิ์ดำ (สีดำ) หรือ ข้าวหลามตัด คู่ หัวใจ (สีแดง) อัตราจ่าย 12:1
คู่ผสม - ไพ่คู่ที่มี "แต้มเดียวกัน" แต่มีดอกและสีต่างกันเช่น หัวใจ คู่ โพธิ์ดำ หรือ ข้าวหลามตัด อัตราจ่าย 6:1
ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ติด Perfect Pair ได้หลายคู่นั้นจะเกิดจากการเล่นที่ใช้ไพ่ในการเล่นตั้งแต่ 6 สำรับขึ้นไป
แบบ Bet Behind
เป็นการ เดิมพันแบล็คแจ็ค ตามผู้เล่นอื่นเพื่อเอาชนะ ดังนั้นการแพ้ชนะของเราจะขึ้นอยู่กับผู้เล่นอื่นเป็นหลัก เราทำหน้าที่แค่วางเดิมพันเท่านั้น และส่วนมากจะใช้วิธีนี้เมื่อเราแพ้ในตาก่อนหน้านี้นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ วิธีเล่นแบล็คแจ็ค พร้อมเทคนิคการเล่นที่น่าสนใจ ที่เรานำมาเสนอให้ทุกท่านได้ชมกัน อย่างไรก็ดีเมื่อได้เคล็ดลับดีๆแล้ว ก็อย่าพลาดที่จะเล่นกับแอพ คาสิโน ออโต้ อันดับ 1 ที่มีมาตราฐานอย่าง WamaGame
ที่ให้บริการโดยมืออาชีพอย่าง Wama Auto มาพร้อมระบบ ฝากถอนออโต้ และทีมงานที่พร้อมดูแลทุกท่านตลอด 24 ชั่วโมง
สมัครสมาชิก และ ดาวน์โหลด ได้เลยทันที และอย่าลืมแอดไลน์ @wamaautocall1 เพื่อตรวจสอบเลขบัญชีสำหรับฝากเงินและสอบถามข้อมูลต่างๆ ทางทีมงานค่ะ